Translations are evolving and should be taken as indicative only! For a guide to the tones and the spelling system used to write this variety of Isaan (Khon Kaen), see the "tone guide" on the overview page.

Tones: M = mid, HR = high-rising, H = high, HF = high-falling, LF = low-falling

IsaanPronunciationTonesThaiEnglish/Notes#occ
หนา na: M หนา thick 8/5

Link to overview page
Link to dictionary

Vocabulary recordings — Planting rice 06

เข้าซุมนี้ เข้าที่เป็นมะเล็ดพันนี้หละ เฮาสิไปหว่านก่อน เพื่อที่สิให้ต้นเข้านั้นมันเป็นก้าก่อนเด่ะ เป็นต้นก้า หว่านถี่กัน หว่านแหน้นปึ่บหนาตึ่บเลย บ่ต้องหว่านห่างคือกันกับกานผาย เพาะว่าเฮาสิเอาเข้าซุมนี้มาเป็นก้า

Basic vocabulary — page 21 — Series B, pictures 14-15: book, small, large, cloth/towel


14
นี้คือหนังสือ มีหนังสือสองเหล้ม หนังสือเหล้มใหญ่ กับหนังสือเหล้มน้อย
หลือหนังสือเหล้มหนา กับหนังสือเหล้มบาง
เหล้มหนาสิเป็นสีแดง เหล้มบางสิเป็นสีเทา

15
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นผ้าเซ็ดโตผืนใหญ่ กับผ้าเซ็ดโตผืนน้อย
หลือผ้าเซ็ดโตผืนหนา กับผ้าเซ็ดโตผืนบาง

Vocabulary recordings — Planting rice 08

กานดำนี้กะเอาต้นก้าหละปะมานสามสี่ต้นจุ่มลงไป สามสี่ต้นหลือว่าสี่ห้าต้นกะได้ แล้วแต่คนสิจับได้ต้นก้าต้นนั้นไปดำ กานดำเหน้กลงไป เหน้กใส่ขี้ดินเนาะ นิ้วโป้กับนิ้วซี้เฮานี้หละจับตง ตงกกต้นก้านั้นหละ แล้วกะเสียบลงไปในขี้ดิน หลือว่าเหม้ลงไปในขี้ดินเนาะ เพื่อที่สิให้ฮากก้า ฮากต้นก้านั้นติดลงไปในขี้ดิน เพื่อที่สิให้มันเกิดขึ้นมา หลือว่าใหญ่ขึ้นมาเนาะ กานดำนี้กะคือวางละยะคือตาข่ายนี้หละเนาะ ลูบตาข่ายกะ เหน้กใส่ขี้ดิน บ่ต้องถี่หลาย กะห่างพอสมควน เพื่อที่สิให้เข้ามันใหญ่ บ่แออัด หลือว่าต้นกะ ต้นเข้า บ่ให้มันหนาเกินไปเนาะ พอเฮาดำเลียบล้อยแล้ว เฮากะถ้าจนมันใหญ่ จนได้เกี่ยวเข้าพุ้นหละเนาะ

Basic vocabulary — Page 29 — Series B, pictures 16-18: needle, thread, button, to sew, shirt


16
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นเข็มเนาะ เป็นเข็ม
เข็มหนิกะเอาไว้ถ้าเญ็บ หลือเอาไว้ถ้าส้อมแซมเสี้ยผ้า หลือว่าส้อมแซมอี่หยังต่างๆ ที่เกี่ยวกับเญ็บเนาะ
เข็มหนิกะต้องใซ้คู่กับด้าย ขั้นมีแต่เข็มอย่างเดียว ใซ้งานอี่หยังกะบ่ได้เลย นอกจากว่าขั้นมีด้ายปึ่บ เข็มอันนี้สิสามาดใซ้งานได้ในสิ่งต่างๆ
อย่างเซ้นว่าเสี้ยผ้าเฮาขาด ส้งเฮาขาด เกิบเฮาฮ้าง เกิบเฮาพังเฮาเพ หลือว่าผ้าอี่หยังเฮาขาดเนาะ เฮากะต้องใซ้เข็มหนิไปเญ็บ
ก่อนที่สิเญ็บเฮากะต้องใส่ด้ายก่อน เอาด้ายใส่ ใส่เข้าไปในเข็ม เพื่อที่สิเญ็บส้อมแซมเสี้ยผ้าอี่หยังต่างๆ ที่เฮาฮ้างเฮาเพเนาะ
เข็มนี้มันกะสิเป็นแหลมอยู่หม้องปายมัน ตามลักสะนะ แล้วตงท้าย หลือว่าตงดากมัน หลือว่าตงท้ายมันกะสิมีหู หูน้อยดอก สำหลับที่สิว่า สิใส่ด้ายเข้าไปในหูนั้น แล้วกะเอาไว้ถ้าเญ็บสิ่งของต่างๆ เนาะ
แล้วกะหม้องปายมัน นั้นแหลมหนะ มันกะสิแหลมเติบเด๊ คมพ้อมเด๊ ขั้นจิ้มเข้าไปใน ขั้นจิ้มเข้าไปในเนี้ยของเฮา หลือว่าผิวของเฮา กะสิเจ็บอยู่หน่อยหนึ่ง เจ็บเติบอยู่ เพาะว่ามันแหลมหลาย แหลมคัก แหลมอี่หลีเนาะ

17
เขากำลังเฮ็ดหญัง กะมีคนคนหนึ่งเนาะ กำลังใส่ด้ายอยู่ เอาด้ายใส่เข็ม
กะสิมีด้ายเส้นหนึ่ง อาดสิแบบว่าเสี้ยเขาขาด ส้งเขาขาด หลือว่าอี่หยังเขาต้องกานปะ หลือว่าแซม หลือว่าส้อมแซมอี่หยังต่างๆ เนาะ เขากะอาดสิเอาด้ายมาปะมาน พอปะมาน ญาวพอปะมาน อาดสิญาวสอกหนึ่ง สอกหนึ่งเด๊ หลือกะอาดสิสั้นกว่านั้นกะได้ แล้วแต่ลักสะนะงาน หลือว่าลักสะนะที่เฮาสิส้อมแซม ว่าสิส้อมหลายส้อมหน้อยเนาะ
เฮากะเบิ่งปะลิมานว่าเฮาต้องใส่ด้ายส่ำใด ญาวส่ำใด ญาวส่ำนั้นส่ำนี้ เฮากะกะปะลิมานเฮาเอง หลือว่าเฮากะต้องคิดว่าเฮาสิเญ็บแบบใด เญ็บหนา เญ็บบ่หนา เญ็บห่าง เญ็บบ่ห่าง เฮากะกะละยะ แล้วกะกะด้ายของเฮาเอง
เขากะเอา พอเตียมด้าย เวลากะเอาด้ายนั้นหละใส่เข้าไปในหูของเข็ม หูอยู่ท้ายเข็มนั้นหละ กะเอาด้ายใส่เข้าไปในหูนั้น
พอใส่แล้วเฮากะเอาปายเข็ม ปายที่มันแหลมหนะ กะเญ็บเข้าไปในเสี้ยผ้าของเฮา ในหม้องที่เฮาสิส้อม เฮากะด้นๆๆ เข้าไปเสียบ เข้าไปในเสี้ยผ้า

18
เขากำลังเฮ็ดหญัง กะมีคนคนหนึ่งหนิหละ เขาอาดสิ กำลังสิส้อมแซมเสี้ยผ้าอยู่
เบิ่งตอนนี้อาดสิแบบว่ากะดุมเสี้ย เขาอาดสิหลุด หลือว่ากะดุมเสี้ย เขาอาดสิ เซียกมันอาดสิขาด เฮ็ดให้กะดุมเม็ดนี้ใซ้งานบ่ได้ หลือว่าบ่สามาดติดกับเสี้ยผ้าได้
เขากะเลยต้องส้อม ต้องแซม ต้องปะ ต้องอันนี้มันเนาะ
เขากะเอาเข็มกับด้ายนั้นหละ เอาด้ายใส่เข้าไปในเข็ม แล้วกะเญ็บ เญ็บกะดุมเม็ดเนี้ย เม็ดที่เขากำลังเฮ็ดอยู่หนิ เญ็บเข้าไปในเสี้ย ในเสี้ยของเขา เพื่อที่ว่าสิให้เสี้ยโตนั้นใซ้งานได้ตามปกกะติ หลือว่าใซ้งานได้คือเก่า

Basic vocabulary — Page 03 — Series B, pictures 12-17: book, book shelf, to take, to open, to read, to close, to put away


12
นี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นหนังสือ หนังสือเหล้มบักใหญ่หนึ่ง เหล้มสีเขียว หนาตึ่บเอาโลด
หนังสือมีไว้เฮ็ดหญัง หนังสือกะมีไว้ถ้าอ่าน เอาไว้ถ้าให้ความลู้ ขั้นเฮาเปิดเบิ่งหนังสืออันนั้น หลือว่าเปิดอ่านหนังสืออันนั้น เฮากะสิมีความลู้เกี่ยวกับความลู้ที่มันมีอยู่ในหนังสืออันนั้น
แล้วหนังสือกะมีแนวขั้นหนังสือพ้อม สีแดงนั้นหละ เอาไว้ถ้าขั้นหนังสือ สมมุดว่าเฮาอ่านฮอดหน้านั้นแล้ว เฮากะเอาแนวขั้นหนังสือขั้นไว้ ญามแบบว่าเฮาเซาอ่านแล้ว หลือว่าอ่านฮอดหน้านั้น แล้วเฮาสิพักเบก หลือว่าบ่อยากอ่านอีกแล้ว สิกับมาอ่านมื้อใหม่ เฮากะเอาแนวขั้นหนังสือนั้นมาขั้นไว้ แล้วพอมื้อหลังเฮามาอ่าน เฮากะสิฮู้แล้วว่า เฮาฮอดหม้องนั้นแล้ว เฮาต้องอ่านต่อหม้องนั้น แล้วเฮากะเปิดหม้องที่เฮาขั้นไว้นั้นหละ เอาแนวขั้นสีแดงนั้นหละขั้นไว้ อันนี้กะคือขั้นแนวขั้นหนังสือ

13
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังสิเอาหนังสือ
เอาหนังสืออยู่ใส กะเอาหนังสืออยู่ในซั้นวางหนังสือ
เขาสิเอาหนังสือไปหญัง เขากะอาดสิเอาหนังสือนั้นไปอ่าน เขากะเลยสิเอาหนังสือนั้นไป
หนังสืออยู่เทิงซั้นนั้นมีจักเหล้ม กะมีหลายเหล้มอยู่ มีห้าหกเหล้มพุ้นหนะ เทิงสีซมพู สีเขียว สีแดง สีเหลียง สีฟ้า หลายเหล้มอี่หลีวางเฮียงกันอยู่

14
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังเปิดหนังสือ
เขาเปิดหนังสือเฮ็ดหญัง เขากะอาดสิอ่านหนังสือ เขากะเลยเปิดหนังสือ
เขาเปิดหนังสือจักเหล้ม เปิดเหล้มเดียว เปิดเหล้มเดียวข้อหล้อ เหล้มสีเขียว มือข้างหนึ่งกะเปิดไปอีกฝั่งหนึ่ง มือข้างหนึ่งกะเปิดไปอีกฝั่งหนึ่ง
แล้วอี่หยังอยู่ตงกางหนังสือนั้นสีแดงอันนั้นกะเป็นแนวขั้นหนังสือ เป็นแนวขั้นหนังสือเพื่อที่ว่าสิเอาไว้ถ้าขั้นหนังสือ ขั้นหน้านั้น ขั้นหน้านี้

15
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังอ่านหนังสือ
เขาอ่านหนังสืออยู่กับใผ เขาอ่านหนังสืออยู่พุเดียวของเขานั้นหละ เขาอ่านอยู่พุเดียว
แล้วเขาอ่านหนังสืออยู่ใส เขาอาดสิอ่านอยู่โลงเลียน อาดสิอ่านอยู่บ้าน หลือว่าอาดสิอ่านอยู่ห้องสะหมุดกะได้
เขาอ่านหนังสือจักเหล้ม เขากะอาดสิอ่านหนังสือเหล้มเดียว เพาะว่าเฮาเห็นเขาจับหนังสืออยู่เหล้มเดียว บ่ได้มีหลายเหล้ม

16
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังปิดหนังสือ เขาพุนี้กำลังปิดหนังสือ
เขาปิดหนังสือเฮ็ดหญัง เขากะอาดสิบ่อ่านแล้ว หลือว่าอาดสิเซาอ่านแล้ว เขากะเลยปิดหนังสือไว้ เพื่อที่ว่าอาดสิเอาไปเก็บ หลือว่าเอาไปเมี้ยนหม้องที่เขาเอามา

17
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังเอาหนังสือไปเก็บไว้ซั้นวางหนังสือ
เป็นหญังเขาคือเอาหนังสือไปเก็บไว้ซั้นวางหนังสือ กะเพื่อว่าสิให้มันเป็นเลียบล้อย เป็นละเบียบเลียบล้อย เขากะเลยสิเอาไปเก็บไว้ซั้นวางหนังสือ เพื่อที่ว่าสิให้มันเบิ่งงาม หลือว่าเป็นละเบียบคือเก่า
ขั้นเขาเอาหนังสือออกมาแล้ว บ่ไปเก็บไว้หม้องเก่า คนอื่นที่เขาสิมาเบิ่ง หลือว่าอาดสิเอามาอ่าน เขากะหาเหล้มนั้นบ่พ้อ หาเหล้มนี้บ่พ้อ เพาะว่าคนที่เอาไปอ่านนั้น บ่มาเก็บไว้หม้องเก่า เอาไปอ่านแล้วกะเอาไปถิ้มไว้หม้องอื่น เอาไปวางไว้หม้องอื่น คนอื่นกะบ่สามาดหาเหล้มหนังสือนี้ได้